ความฉลาดแกมโกงหรือไม่

1. ซีเนียร์ซคิพเอาท์เด

วันหนึ่งใกล้จะถึงปิด

เทาม

ตอนผมเรียนมัธยมปลาย เพื่อนสองคนบอกผมว่าอาทิตย์นั้นจะมี “ซีเนียร์ซคิพเอาท์เด” ซึ่งหมายถึง วันนั้นทุกคนในชั้นที่ 12 จะต้องโดดเรียน เพื่อนก็ชวนผมโดดเรียนแล้วก็โบกรถไปชายหาดกัน

ผมก็ตกลงไปกัน แต่คืนนั้นคิดไปคิดมาก็ปอดแหกchicken out? แล้วก็

ขออนุญาต

คุณพ่อและคุณแม่ โดดเรียน และขอให้เขียนจดหมายอ้างให้ผมหน่อย

คุณพ่อคุณแม่

อนุญาตให้

โดดเรียน แต่ปฏิเสธ

ที่จะ

เขียนจดหมายอ้างหรือเซ็นชื่อจดหมายที่ผมจะแต่ง

เอง

เช้าวันต่อมา ผมขึ้นรถโรงเรียน

(ไปเรัยนปกติ)

2. ความทรมานและความปิติยินดี

วันหนึ่งตอนผมเรียนมัธยมต้น ครูใหญ่ประกาศว่า นักเรียนทุกคนจะต้องไปดูภาพยนตร์เรื่องหนึ่งใน

หอบรรยาย

เรื่องนั้นชื่อว่า “The Agony and the Ecstasy” ซึ่งเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างจิตรกร Michelangelo และ Pope Julius II (สันตะปาปา ยูลิอุส ที่ 2) ตอนเขียนจิตรกรรมบนเพดานของ Sistine Chapel – โบสถ์น้อยซิสทีน ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นโบสถ์ไม่

เล็ก

เลย

ตอนนั้นผมคิดว่าเรื่องนั้นน่าเบื่อมากๆ แล้วผมก็ไม่ใส่ใจดูภาพยนตร์นั้น ผมก็ดีใจมากตอน

หนัง

จบ

แต่วันต่อมาผมตกใจ ที่ได้ยินครูสอนสังคมศึกษาประกาศว่า จะมีข้อสอบสั้นๆ ที่ไม่มี

การ

เตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับภาพยนตร์ที่เราดูวันก่อน

ตอนนั้นผมเป็นนักเรียนที่เรียนเก่ง ผมก็ไม่ชินกับการสอบตก แต่กลัวว่าครั้งนั้นจะสอบตกแน่นอน

วันต่อมา หลังจากเริ่มสอน ครู

ก็คืน

กระดาษข้อสอบที่เขาตรวจแล้ว

ปรากฏว่า

ผมสอบไม่ผ่าน ได้คะแนนแค่ 5 ใน 10 – ผมก็อกหัก

มาก

ในข้อสอบมีข้อหนึ่งที่ถามว่า “นามสกุลของ Michelangelo คืออะไร” (และผมไม่รู้ว่านามสกุลของเขาคืออะไร แต่ไม่อยากจะ

เว้นช่องว่างไว้

ผมก็

เลย

เขียนว่านามสกุลของ Michelangelo คือ “Bodavani.”) ตอนครูตรวจกระดาษของผมเขาเขียน “X” บนข้อ

นั้น

ซึ่งหมายถึงตอบผิด

แต่ตอนทบทวนข้อสอบ ครูบอกว่า นามสกุลของ Michelangelo คือ “Buonarotti.”

Bodavani, Buonarotti เหรอ? ... ผมก็ยกมือแล้วบ่นว่า “Miss Kipnis ครับ ผมคิดว่าได้ยินนามสกุลของเขาคือ Bodavani เพราะเสียงของภาพยนตร์ไม่ดีเลยนะครับ” (

เสียงก็ไม่ดีจริงๆ

)

ครูทำหน้าดูเหมือนว่าเขาไม่เชื่อผมเลย แต่เขาบอกผมว่า “โอเค ถ้าอย่างนั้น สะกดคำว่า Buonarotti

ซิ

” ผมก็ลองออกเสียงดู : “b, o, n, a, r, o, t, t, i” แล้วครูบอกว่า “ใกล้เคียงนะ” (“close enough”) แล้วเขาก็

ให้คะแนนผมอีกหนึ่งคะแนน

ซึ่งทำให้

คะแนน

ผมถึง 60 เปอร์เซ็นต์ได้

ผม

ก็

ยังสอบไม่ผ่าน

อยู่ดี

แต่รู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย (และตอนนั้นรู้สึกผิดนิดหน่อยอีกด้วย)

อย่างไรก็ตาม

ผมก็ดีใจเพราะว่า

ตอนปิดเทอม

ผมได้เกรด ‘A’ ในวิชาสังคมศึกษา

ตอนนี้ ผมไม่รู้สึกผิดเที่าไหร่ ไม่ว่าตอนนั้นผม

จะ

เป็นนักเรียนฉลาดแกมโกงหรือไม่ เพราะว่า หลังจากมากกว่า 50 ปีผ่านมาแล้ว ผม

ก็

ยังจำนามสกุลของ Michelangelo

ได้

นั่นก็คือ

Buonarotti

ข้อได้เปรียบ(n.) point of advantage

ข้อได้เปรียบของทรัมป์ก็คือเขาเป็นคน “สุดยอดอัจฉริยะคงตัว”

ข้อเสียเปรียบ(n.) point of disadvantage

ได้เปรียบ(adj.) advantageous

เสียเปรียบ(adj.) disadvantageous

เอาเปรียบ(v.) to take advantage